การปฏิวัติของฝรั่งเศสและประหารชีวิตด้วย กีโยติน
15 กรกฎาคม 2020สำหรับเรื่องราวในการปฏิวัติของฝรั่งเศสก็ได้มี นักเขียนที่ชื่อว่า ฌอง พอลล์ มาร่าต์ ซึ่งได้ตีพิมพ์ข้อเขียนสนับสนุนการปฏิวัติ โดยที่ได้ใช้ความรุนแรงด้วยเหตุผลที่ว่า หากประชาชนไม่รุนแรงกับผู้นำผู้นำก็พร้อมที่จะบดขยี้ประชาชนด้วยกำลังของทหารอย่างไร้ความปราณี แต่ทั้งนี้อย่างไรก็ตามหนังสือพิมพ์ของ มาร่าต์ ก็ได้รับความนิยมอย่างมาก
ในหมู่ประชาชนและต่อมา มาร่าต์ ก็ได้กลายมาเป็นผู้ที่ทรงอิทธิพลเป็นอย่างมากคนหนึ่งในกระบวนการปฏิวัติและRign of Terror ซึ่งก็ได้เป็นการฆาตกรรมกันเป็นขนานใหญ่ด้วย กีโยติน ในปี1792-1794 นั่นเองนอกจากนี้ด้านสภาประชาชนถูกขับเคลื่อนด้วยกลุ่มที่เรียกตัวเองว่า จาโคบิน นำโดนนักกฎหมายที่มีชื่อว่า แม็กซิมิลิยอง โรงแบสปิแอร์
ซึ่งแม็กซิมิลิยอง โรงแบสปิแอร์ ได้เชื่อว่ารัฐบาลปฏิวัติจะต้องประกอบไปด้วยคุณธรรมและความโหดเหี้ยมความยุติธรรมจะต้องถูกแจกจ่ายอย่างรวดเร็วคนผิดหรือผู้ที่คิดต่อต้านการปฏิวัติจะต้องได้รับโทษอย่างรวดเร็วและรุนแรง นอกจากนี้แม็กซิมิลิยอง โรงแบสปิแอร์ก็ได้ตั้งคณะกรรมการขึ้นมาชุดหนึ่ง ชื่อว่า คณะกรรมการความปลอดภัยสาธารณะ หรือว่า Committ of Public Safety
เพื่อปกป้องการปฏิวัติจากทั้งศัตรูภายนอกและภายในประเทศคณะกรรมการชุดนี้มีอำนาจมากมายที่จะจับคนมาสอบสวน กักขังและกำหนดโทษได้ ซึ่งโทษเกือบทั้งหมดก็คือการประหารด้วย กีโยติน นั่นเอง ในช่วงปี1792-1794 ซึ่งเรียกว่าReign of Terrorหรือการปกครองด้วยความหวาดกลัวนี้มีคนได้ถูกตัดสินประหารชีวิตด้วย กีโยติน อย่างเป็นทางการมากถึง16,594 ตัวอย่างความโหดที่ได้รับการพูดถึงกันอยู่เสมอก็คือในวันที่2-6กันยายน ปี1792 มีการประหารคนไปถึง1,600คน
ในคราวเดียวกันก็คือเริ่มในบ่ายของวันอาทิตย์ไปเสร็จเอาในช่วงเย็นของ วันพฤหัสบดีเค้าไม่ได้บอกว่ามันได้มีการพักหรือเปล่าแต่ก็นั่นแหละ4วัน1,600คนมีทั้งทหารบาทหลวง ผู้หญิงและเด็ก ฌอง พอลล์ มาร่าต์ ได้เป็นคน สำคัญในกระบวนการนี้ โดยได้เป็นคนที่เขียนรายชื่อของคนที่สมควรที่จะถูกประหาร มาร่าต์เขาเป็นโรคผิวหนังแต่ไม่ทราบว่าเป็นโรคอะไรแต่ด้วยอาการทางผิวหนังก็เลยต้องนั่งแช่น้ำอยู่ในอ่างเกือบตลอดเวลาและก็เขียนหนังสือ เขียนรายชื่อ เขียนข่าว เขียนการแถลงการณ์ต่างๆในตอนที่แช่น้ำอยู่นั่นสแหละ
ซึ่งก็ได้มีภาพเขียนที่โด่งดังอยู่ภาพหนึ่ง ชื่อว่าThe Death of Marat โดย ฌากส์ หลุยส์ ดาวีด์ ซึ่งก็คือความตายของ มาร่าต์นั่นเอง มาร่าต์ได้ถูกหญิงสาวที่ชื่อว่า ชาร์ลอตต์ คอร์เดย์ แทงตายเพระาเธอนั่นได้เชื่อว่า มาร่าต์ ต้องรับผิดชอบกับความตายของคนหลักพันที่ถูกประหารชีวิตในเดือนกันยายน ปี1792
สนับสนุนโดย entaplay login